สิ่งที่ต้องเตรียมในการเดินป่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ มักจะมีอุปกรณ์ที่สำคัญคล้ายๆกัน แต่จะแตกต่างกันไปบ้าง ตามสภาพภูมิประเทศที่นักท่องเที่ยวต้องการเดิน เช่น ป่าดิบชื้น ป่าหน้าร้อน ป่าหน้าฝน ป่าหน้าหนาว หลักๆก็จะมีดังนี้

     1. เป้เดินทาง ความจุจะเป็นลิตร ยิ่งจุได้มาก ก็จะยิ่งหนักนะครับ นักท่องเที่ยวควรคำนึงตรงจุดนี้เป็นสำคัญ สิ่งอำนวยความสะดวกในเป้ที่จำเป็นต้องใช้ก็จะมี

     - กระเป๋าข้างเป้ สำหรับใส่น้ำและของกิน จะได้หยิบได้สะดวก โดยไม่ต้องปลดเป้ออกจากหลัง เพราะมันหนักและยุ่งยาก

     - เป้ที่มีอุปกรณ์ช่วยพยุงหลัง เพื่อลดอาการปวดหลังในการเดินทางนานๆ ควรมีบุนวมนิ่มๆเพื่อลดการสัมผัสและเสียดสีกับหลังของนักท่องเที่ยว

     - กันน้ำ เพราะในป่าจะมีความชื้นสูง เป้ควรมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝน ของภายในจะได้ไม่เปียกปอนซะก่อนจะถึงที่หมาย

     2. อาหารและน้ำดื่ม ควรมีน้ำหนักเบา และขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น ขนมปัง(เราสามารถบีบอัดให้ขนาดเล็กลงได้ง่าย) ข้าวสารหรือข้าวเหนียว เนื้อตากแห้ง หมูหย๋อง ไข่ไก่ถ้าอยากเอาไปควรตอกใส่ไว้ในขวดน้ำดื่ม เพราะจะได้ไม่ต้องกลัวแตกเลอะเป้ ปลากระป๋องก็เช่นกัน จะได้ลดน้ำหนักของกระป๋องโลหะลง เป็นต้น และอย่าลืมของกินเล่นเติมพลังงานในระหว่างเดิน นักเดินทางอาจจะหมดแรงข้าวต้มได้ง่ายๆ หากขาดของหวาน

     ห้องพักภายในอุทยานแห่งชาติตาดหมอก สวยงาม น่าเข้าพักเป็นอย่างยิ่ง แต่ก่อนนอน 9Chon.com แนะนำว่า เพื่อนๆควรสวดมนต์ไหว้พระ เพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะดีที่สุดนะครับ เพราะผู้เขียนเจอมากับตัวเต็มๆ ดึงผ้าห่มซะนอนไม่หลับเลย ต้องพนมมือขอ จึงจะได้นอน อันนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้บังคับนะเพื่อนๆ อย่าหาว่าเราเป็นสายมูเลย ตอนนั้นกลัวจริงๆ แหะๆ

     การเดินทางเริ่มต้น เราต้องนั่งรถเข้าไปยังจุดที่จะเริ่มเดิน เพราะตำแหน่งที่จะเดินเข้าไปในป่าตาดหมอก ซี่งเป็นทางเดินธรรมชาติ จะมีหลากหลายจุด โดยเฉพาะการเดินครั้งนี้ จะเป็นการเดินลาดตะเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติตาดหมอก จุดที่เริ่มเติน จะไม่ใช่จุดเริ่มต้นปรกติที่นักท่องเที่ยวธรรมดาจะเข้าไปเริ่มต้นเดิน ซี่งครั้งนี้ จะต้องเริ่มต้นเดินผ่านจากไร่มะขามเมืองเพชรบูรณ์ของชาวบ้าน ทางทีมก็ต้องนั่งรถหกล้อ ฝ่าถนนซี่งน่าจะเรียกว่าทางน้ำเก่ามากกว่า เพราะว่ามันโหดมาก

     ทางเดินเข้าป่าอุทยานแห่งชาติตาดหมอกในช่วงเริ่มต้น จะเป็นทางซี่งชาวบ้านแถบนั้นใช้เดิน มีสภาพเป็นป่าโปร่งและมีเส้นทางแคบๆ ซี่งจะเห็นว่าเกิดจากการย่ำลงบนดินซ้ำๆของผู้ที่เข้ามาหาของป่าแถบนั้น ในภาพจะเห็นกอไผ่ ที่ชาวบ้านน่าจะใช้บริการเก็บหน่อไม้กันมาเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่เล่าว่า เส้นทางนี้ ตอนเริ่มต้นสร้างจากรถแมคโครเข้ามาปรับทางซี่งเป็นเนินเขา ให้มีพื้นที่เรียบสำหรับเดินเข้ามา และป่าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก ยังเป็นป่าที่เจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาเอาน้ำไปประกอบพิธีภายในวังอีกด้วย ซึ่งอันนี้ ทางผู้เขียนก็ไม่ค่อยจะมีข้อมูลในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก และถ้าจำไม่ผิด ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ทรงเคยเดินทางมาที่นี่อีกด้วยนะ

     เวลาเราเดินเข้าไปดิบชื้นในเมืองไทย นักท่องเที่ยวมักจะเจอทากดูดเลือดเข้ามาคอยดักทักทาย บางคนกว่าจะรู้ตัวทากก็อ้วนซะแล้ว วิธีป้องกันง่ายๆก็นี่เลย ซอฟเฟลกันยุงอันนี้นี่เอง สุดๆ ป้องกันได้ทั้งยุงและทาก อย่าลืมติดไปด้วยนะครับ ฉีดที่บริเวณเท้าและรอบๆตัว แต่ต้องระวังนิดนึง เพราะว่าหากเราเดินลงน้ำ ฤทธิ์ของซอฟเฟลอาจจะลดลงได้ ทำให้เราต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ เพื่อให้การป้องกันยังคงใช้ได้อยู่ หากเพื่อนๆไม่เชื่อ ลองดูในคลิ๊ปเลยว่าเวลาทากดูดเลือดโดนซอฟเฟลแล้วจะเป็นอย่างไร

     และนอกจากจะมีทากดูดเลือดและสัตว์ร้ายแล้ว เพื่อนๆอาจจะต้องระวัง เห็บหมูป่า เพราะเมื่อเราโดนมันกัดแล้ว จะเกิดแผลเป็นอักเสบเป็นเวลานานมาก แถมด้วยแตนและแมลงก้นป่องอีกตัวนึง ซี่งอันตรายมากๆ เพื่อนควรระวังไว้ นี่ยังไม่รวมใบไม้พิษนะครับ

     ช่วงเวลาของการเติมพลังงานมาถึงแล้ว เวลาที่เราเดินป่า เรามักจะสูญเสียพลังงานไปอย่างบางทีแทบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำ เราเคยมีประสบการณ์ลืมดื่มน้ำ เพราะช่วงที่เดินเป็นหน้าฝน ทำให้ระหว่างทางที่เดินมีฝนเทลงมาตลอดเวลา ทำให้ไม่รู้สึกถึงความชื้นที่หายไปจากร่างกาย จนทำให้ลืมดื่มน้ำ สุดท้ายผลที่ได้ก็คือ ปัสสวะเป็นเลือดเพราะขาดน้ำมาก ขอให้เพื่อนๆนักท่องเที่ยวระวังตัวให้มาก อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอในระหว่างเดินทาง เพราะเราจะเสียน้ำไปตลอดเวลาจากเหงื่อ หากลืม อาจจะทำให้ร่างกายแย่ลงระหว่างทางได้ ซึ่งถ้าเพื่อนๆป่วยระหว่างการเดินป่า เป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว และเมื่อถึงเวลาพักทานข้าวช่วงกลางวัน เพื่อนๆก็อาจจะเอาใบตองมาปูพื้น เพื่อวางอาหารที่จะนำมาปรุงแบบในภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการนั่งทาน และเป็นการรักษาความสะอาดให้กับอาหารของเราอย่างง่ายๆ จากในภาพจะเห็นหยวกกล้วย ซึ่งเป็นอาหารที่หาง่ายที่สุดในป่าก็ว่าได้

     เดินเข้าป่าลึก บางทีก็จะเจอสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นแบบนี้ มันก็แปลกดีครับ แค่เดินเข้ามายังยากเลย ทางเจ้าหน้าที่เล่าว่าเคยมีพระเดินธุดงเข้ามาสร้างสำนักสงฆ์ที่นี่ แต่ตอนที่ทีมเดินทางไปถึง มันก็ถูกทิ้งร้างซะแล้ว

     การกางเปลนอนและปฐมพยาบาล หากมีผู้ป่วยระหว่างการเดินป่า หน่อยแพทย์และพยาบาลก็จำเป็นอย่างมากเลย ทีมงานเจอมากับตัวด้วยอาการฮีท สโตรก หรือโรคลมแดด ซึ่งหากรักษาไม่ถูกวิธี อาจจะถึงชีวิตได้เลยนะครับ ขอให้เพื่อนๆนักเดินป่าท่องเที่ยวระวังกันไว้ให้ดีๆ อาการก็จะหน้ามืด หายใจหอบ เนื่องจากร่างกายมีความร้อนสูงมากจนเกินกว่าจะระบายได้ทันท่วงที

     การหาที่พักควรทำก่อนมืด เพราะในป่าพอมืดแล้ว เราจะทำอะไรก็จะยิ่งยากขึ้น เพราะทัศนวิสัยในการมองน้อยลง ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรหาที่พักก่อนสี่โมงเย็น เพื่อจะได้มีเวลาทำกิจกรรมต่างๆก่อนเข้านอน เช่น กางเปลหรือเต็นท์ จัดหาอาหาร อาบน้ำล้างหน้า เป็นต้น ในภาพจะเป็นการกางเปลในหน้าหนาว หากเพื่อนๆเข้าป่าในช่วงหน้าฝน การกางเปลใกล้กับแหล่งน้ำมากๆอาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะพอฝนตกหนักอาจจะเกิดน้ำป่าถล่มที่พัก ทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ขอให้เพื่อนๆนักผจญภัยทุกท่านโปรดระวังในจุดนี้ให้ดีด้วยนะจ๊ะ

     เดินป่านานๆแล้วเสื้อผ้าคุณก็จะเปียก ถ้าก่อกองไฟไว้เราสามารถเอามันมาปิ้งย่าง เพื่อให้มันแห้ง พอใส่ครั้งต่อไป เราจะได้ไม่ต้องใส่มันเปียกๆ โดยเฉพาะหน้าฝน ซี่งความชื้นจะสูงมาก

     ดูสภาพของนักเดินป่าที่ไม่เตรียมตัว ท่านอาจจะเป็นรายต่อไป >>>

     เปลที่มีมุ้ง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในป่าดิบของไทย เพราะในป่าจะมีแมลงเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยุงที่เป็นพาหะของโรคมาลาเรีย ซึ่งคราชีวิตคนไทยไปมากมาย ยิ่งเราอยู่ในป่าลึกแล้วติดมาลาเรียขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่มาก ขอให้เพื่อนๆระวังตรงนี้เป็นพิเศษ ดอกจันทร์สิบดอก

     สุดท้ายนี้ก็หวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ชอบการเดินป่า และต้องการออกผจญภัยในป่าลึก เพื่อชมธรรมชาติหรือแม้แต่เพื่อการศึกษาหาความรู้ข้อมูล ไม่มากก็น้อย วันนี้ทางทีมงานก็ชอลาไปก่อน บายจ้าาา